ที่หนึ่งของอะไร

ที่หนึ่งของอะไร

ผมไม่เคยเป็นที่หนึ่งของอะไร ผมบ่นกับแม่ แม่ตอบผมกลับ “แม่ก็ไม่เคยเป็นที่หนึ่ง” ผมได้ยินแล้วก็รู้สึกเจ็บหัวใจแปลบ ผมได้แค่พูดในใจ แต่แม่เป็นที่หนึ่งในใจผมนะ บทสนทนาจบลงแค่นั้น ผมจำความได้ มีหนึ่งอย่างที่ผมเคยได้เป็น ผมเคยสอบได้ที่หนี่งมาหลายครั้งในแต่ละระดับชั้น แต่ชีวิตผมตอนนี้โคตรบัดซบราวกับว่าที่ผ่านมา ก็ได้มาแค่ตัวเลขอะไรก็ไม่รู้ เกรดเหรอ ลำดับที่เหรอ หรืออะไร มันไม่เคยวัดได้เลยว่าตอนนี้ผมจะเป็นยังไง ส่วนคนที่เคยสอบได้ที่สุดท้าย ตอนนี้พวกเขาไปไกลกันหมด ไปไกลสุดสายตาจนผมมองไม่เห็นแล้ว ผมได้ที่หนึ่งแค่ในห้องเรียน แต่ในโลกจริง ผมได้ที่สุดท้าย เหมือนคำคมที่ผมเคยเห็นผ่าน ๆ ว่า เรียนเก่งแต่เอาตัวไม่รอด ผมว่าผมโดนเต็ม ๆ นี่แหละ จะมองว่ามันเป็นบทเรียนได้ไหม ผมก็แค่ไอ้ห่วยคนหนึ่งที่เลือกชีวิตและทำตัวเอง ทำไมมันเหมือนผิดแผนไปหมด แผนที่วางมาดี แต่เหมือนว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เคยการันตีอนาคตได้เลย พอนึกไปถึงเรื่องเหล่านี้ ผมแค่โคตรเจ็บ ตอนนั้นที่ผมสอบได้ที่หนึ่ง ผมก็แค่ได้ลอยหน้าลอยตาแค่ตอนนั้นเท่านั้น มันเป็นแค่ความรู้สึกลาง ๆ ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยซ้ำเมื่อมองไปยังภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยช่างกล้องฝีมือดี อัดกระดานตั้งโต๊ะเรียบร้อย แต่ตอนนี้ผมแทบจะเอาไปเผา เพราะมันไร้ค่าเกินไปแล้ว ทั้งหมดที่ผมทำมัน ไม่ได้เกี่ยวกับอนาคตห่ารากอะไรเลยสักนิด ไม่เลย แล้วตอนนี้ผมเลือกอะไรลงไป มันก็มีผลสำหรับตอนนี้ หรือสำหรับอนาคต ไม่มีอะไรการันตีได้จริง ๆ แล้วผมต้องมองมันยังไง มองมันเป็นประสบการณ์เหรอ มันอาจจะเป็นแค่ประสบการณ์ของตอนนั้น ที่ผมแค่อยากตั้งใจเรียนเพื่ออยากได้ความรู้ ผมไม่ขาดเรียนถ้าไม่จำเป็น ผมไม่ป่วย ไม่ลา ไม่เคยสาย เข้าเรียนตลอด เข้าแถวทุกครั้ง ถึงโรงเรียนก่อนใคร แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่โคตรเกลียดโรงเรียน ผมไม่เคยอยากไปโรงเรียน ผมโคตรฝืนไป ตอนเด็กผมเรียนชั้นเรียนอนุบาล ผมร้องไห้เกือบทุกวัน ผมไม่อยากไปโรงเรียน จนผมเรียนระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็ไม่เคยคิดว่าผมอยากไปโรงเรียน แต่ผมก็ไม่เคยขาดลา ไม่เคยสาย เข้าแถวทุกครั้ง ตั้งใจเรียนทุกครั้ง การบ้านการงานส่งทุกครั้ง ไม่เคยไม่ส่ง ผมเป็นเด็กเรียนหัวแถว ไม่เกเร ไม่โดดเรียน เรียนดี ผู้คนสรรเสริญเยินยอ ให้เพื่อนลอกการบ้าน สอนการบ้านเพื่อน ติวข้อสอบ ช่วยเพื่อนแก้ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยไม่สอบตก ผมสอบตกแต่ผมแก้ได้ เหมือนคนอื่น โครงงาน งานกลุ่ม มีผมเป็นตัววิ่ง มีเรื่องอะไรทุกคนก็ถามผม อันนี้ทำไง ข้อนี้คืออะไร สอนหน่อย ลอกหน่อย ตอนนั้นผมมีประโยชน์ต่อคนหลายคน อาจารย์ชื่นชม พาเข้าแข่งขันในระดับชั้น ผมเป็นอย่างนี้ สม่ำเสมอ จนช่วงฝึกงาน ผมยังคงคอนเซปต์เดิมไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย ถึงที่ทำงานก่อนใคร ตั้งใจทำงาน ของาน ช่วยเหลือ มันก็เป็นปกติมนุษย์นั่นแหละ จนผมทำงาน ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย ถึงที่ทำงานก่อนใคร ตั้งใจทำ ไม่เข้าใจถาม เรียนรู้งานไว ใคร ๆ ก็บอก แต่ผมไม่เคยอยู่ที่ไหนได้นานเลย จริง ๆ สำหรับที่ผ่านมา ผมฝืนทำ แล้วผมทำได้ไง ผมคิดว่ามันคือหน้าที่ ที่ผมต้องเรียน ตั้งใจทำงาน ทำทุกอย่างให้ดี แล้วผมคิดว่ามันคงดีเอง ผมไม่เคยรู้สึกร่วมกับสังคม ผมไม่ได้อยากทำทั้งหมดเหล่านี้ แต่ผมทำ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ผมควรทำ มันเป็นสิ่งที่ดีแล้วทั้งหมด แต่ทั้งหมดนั้นมันช่วยอะไรผมตอนนี้ได้ ผมมองไม่เห็น ผมเรียนมาหลายปีตั้งแต่อนุบาล ใคร ๆ ก็เป็นอย่างนี้ ผมโชคดีมากมีโอกาสได้เรียน แต่ทั้งหมดมันคืออะไร ในเมื่อผมตอนนี้คือใครก็ไม่รู้ ผมลอยเคว้งท่ามกลางความพยายามทั้งหมด ผมตึง ผมไม่หย่อน ผมสุด ผมแค่คิดว่ามันคงจะเกิดอะไรดี ๆ ขึ้นบ้างถ้าผมทำดีแล้ว และจนถึงตอนนี้ผมยังเหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจเหมือนเดิมว่าทั้งหมดผมได้อะไร ผมไม่รู้หรอก ผมรู้อย่างเดียว ผมอาจจะได้สั่งสมทุกอย่างจนมาเป็นผมตอนนี้ วันนี้ ผมได้เจอตัวเอง ผมได้รู้เป้าหมาย ผมได้เจอสิ่งที่คิดว่าตามหามานานแสนนาน คุณจะเข้าใจไหม หากพูดคำนี้ออกไป "ในที่สุดผมก็หามันเจอ" น่ะ แต่ตอนนี้ผมโคตรสุดแบบคอนเซปต์เดิม ไม่รู้ว่าจะเน่าเหมือนครั้งก่อน ๆ หรือเปล่า แต่ผมพอใจในช่วงเวลานี้มาก แม่ผมเคยบอกว่า เราต้องอยู่ตรงกลาง ไม่ตึงและไม่หย่อนเกินไป เราจะได้อยู่แบบมีความสุขได้ ทุกอย่างจะไปได้ดีแบบไม่ต้องฝืนเกินไป ผมขอบคุณเสมอ และ ผมโชคดีที่ผมได้มีโอกาสคุยกับแม่ และขอบคุณที่ท่านยังคงอยู่ ชีวิตผม ไม่มีอะไรที่ผมไม่พยายามหรอก แต่ผมพยายามแล้วมันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องสำเร็จ หรือจะต้องดีเท่านั้น มันก็เหมือนชีวิตที่ไม่มีอะไรแน่นอนแต่ความตายนั้นแน่นอนที่สุด

Author Avatar
sirin
ความตายนั่งมองอยู่ตรงหน้านั้นเอง tiktok @sirin6996

0 ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ